วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2559

สัปดาห์ที่ 12 เสริมปัญญา พัฒนาสมองซีกขวา ชุด อัจฉริยะด้านรูปร่างและรูปทรง



52 สัปดาห์ที่ฉันจะอ่านหนังสือ
สัปดาห์ที่ 12 
หนังสือ เสริมปัญญา พัฒนาสมองซีกขวา ชุด อัจฉริยะด้านรูปร่างและรูปทรง

สัปดาห์ที่แล้วเราได้รีวิวหนังสือนิทานเด็กไป ในสัปดาห์นี้มาต่อที่หนังสือเด็กอีกสักเล่มนะคะ ซึ่งหนังสือเด็กเล่มนี้เป็นหนึ่งในเล่มที่เราเคยใช้สอนลูกศิษย์ตัวน้อย เป็นหนังสือที่จะช่วยให้เด็กๆ ได้ฝึกทักษะ พัฒนาสมองซีกขวาในราคาสบายกระเป๋า

หนังสือเสริมปัญญา พัฒนาสมองซีกขวา ชุด อัจฉริยะด้านรูปร่างและรูปทรง เป็นหนึ่งในสี่ของชุดเสริมปัญญาพัฒนาสมองซีกขวา ที่เด็กๆ จะได้สนุกสนานหรรษาไปกับเกมต่างๆ เช่น การนับกล่อง หาของที่มีรูปร่างเหมือนกัน โดยมีการนำเสนอผ่านหนังสือภาพสีสันสนใส ถูกใจเด็กๆ นอกจากนี้ยังมีสติ๊กเกอร์ให้ใช้ในการเล่นเกมอีกด้วย

นอกจากเด็กๆ จะได้รับความสนุกสนาน ได้เรียนรู้เรื่องรูปร่างและทรงต่างๆ แล้ว หนังสือเล่มนี้ยังช่วยเสริมสร้างพื้นฐาน เพิ่มทักษะด้านการสังเกตให้กับน้องๆ หนูๆ เรียกได้ว่าเป็นหนังสือเล่มบางๆ ราคาเบาๆ ที่ให้ประโยชน์ไม่เบาเลย

............................................

ข้อมูลหนังสือ

ชื่อหนังสือ : เสริมปัญญา พัฒนาสมองซีกขวา ชุด อัจฉริยะด้านรูปร่างและรูปทรง
ผู้เขียน : กองบรรณาธิการเอ็มไอเอส
สำนักพิมพ์เอ็มไอเอส จำนวน 38 หน้า ราคา 59 บาท พิมพ์ครั้งที่ 1 กันยายน 2554

ปล. แนะนำว่าควรใช้ควบคู่กับชุดเสริมปัญญา พัฒนาสมองซีกซ้ายนะคะ เด็กๆ จะได้ฝึกสมองทั้งสองซีกไปพร้อมๆ กัน แต่เนื่องจากเล่มนี้เป็นหนังสือเก่าที่เรามีนานแล้ว เลยไม่แน่ใจว่ายังมีหรือไม่ ยังไงลองสอบถามไปที่สำนักพิมพ์หรือดูตามร้านหนังสืออีกทีนะคะ ตั้งใจว่าจะเอาไปสอนหลานๆ แถวบ้าน เลยเอามาอ่าน มารีวิวให้ฟังค่ะ^^


ปล 2. ในเพจจะลงทุกวันอาทิตย์นะคะ ส่วนในบล็อกเป็นไปได้จะพยายามลงพร้อมกัน แต่บางทีถ้าไม่สะดวกจะเน้นที่เพจมากกว่าค่ะ 




วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2559

บทความ : อ่านนิทานอย่างไรให้เด็กสนใจฟัง


เล่านิทานอย่างไร ให้เด็กสนใจฟัง???

หลังจากเมื่สัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้รีวิวหนังสือนิทานกุ๋งกิ๋ง หนังสือนิทานสำหรับเด็กไปแล้ว เลยมีความคิดว่าอยากจะแบ่งปันวิธีการเล่านิทานในแบบฉบับของเราให้เพื่อนๆ ได้ฟังด้วย เผื่อจะพอมีประโยชน์อยู่บ้าง จริงๆ ก็เป็นวิธีง่ายๆ ที่หลายคนทำเป็นประจำอยู่แล้ว แต่อาจจะมีบางคนที่ยังไม่เคย ลองอ่านดูนะคะ.................................................

เล่านิทานอย่างไร ให้เด็กสนใจฟัง

การเล่านิทานเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่หลายท่านคุ้นเคยเป็นอย่างดี เป็นสิ่งที่หลายคนมองว่าเป็นเรื่องง่าย แค่มีหนังสือนิทานอยู่กับตัว มีเรื่องที่อยากเล่า ก็สามารถอ่าน สามารถเล่าให้เด็กๆ ฟังได้แล้ว แต่ถึงแม้จะฟังดูง่ายดาย พอปฏิบัติจริงก็ไม่ง่ายนัก ยิ่งการเล่าให้เด็กหลายๆ คนฟังยิ่งยากมากขึ้นไปอีก นั่นเพราะความสนใจและสมาธิของเด็กแต่ละคนแตกต่างกัน แต่ถึงกระนั้นก็ยังพอมีวิธีที่จะช่วยให้น้องๆ หนูๆ สนใจฟังนิทานของเรา วิธีง่ายๆ ที่อยากให้ลองทำ...

1. เลือกเรื่องที่จะเล่า
อย่างที่หลายท่านทราบดีว่าเด็กแต่ละช่วงวัยมีความสนใจแตกต่างกัน ดังนั้นจึงควรเลือกเรื่องที่เหมาะสมกับช่วงวัยนั้นๆ เช่น เด็กวัย 2-4 ขวบ มักสนใจเรื่องราวใกล้ตัว ชอบนิทานคำกลอนที่มีภาพประกอบสีสันสดใส ดูมีชีวิตชีวา แต่ขณะเดียวกันก็สนใจสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น ผู้เล่าจึงควรเลือกเนื้อหาที่เข้าใจง่าย ไม่ยาวและไม่สั้นจนเกินไป อาจเป็นนิทานคำกลอนสอนใจ นิทานคุณธรรม หรือนิทานสร้างสุขลักษณะอย่างกุ๋งกิ๋งที่เราเคยรีวิวไปก็เป็นตัวเลือกที่ใช้ได้เช่นกัน

2. เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม
อุปกรณ์ประกอบการเล่านิทานเป็นสิ่งหนึ่งที่ดึงความสนใจของเด็กๆ ได้ดี ซึ่งผู้เล่าสามารถนำของเล่นของน้องๆ หนูๆ เช่น รถยนต์ของเล่น ตุ๊กตา หุ่นมือ มาเป็นอุปกรณ์ประกอบการเล่าได้ หรือหากมีเวลาก็สามารถประดิษฐ์อุปกรณ์ด้วยตนเอง โดยอาจพาเด็กๆ วาดรูปตัวละครต่างๆ ระบายสีสันให้สวยงาม ทำเป็นหน้ากากสวมใส่เวลาเล่าเรื่อง ซึ่งนอกจากเด็กๆ จะสนุกกับนิทาน สนุกกับการเตรียมอุปกรณ์แล้ว ยังได้ฝึกทักษะด้านอื่นๆ อีกด้วย แต่หากท่านใดไม่สะดวกในการเตรียมสิ่งของเหล่านี้ หนังสือนิทานที่มีรูปภาพสีสันสดใสก็เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบการเล่าได้เช่นกัน

3. จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม
สภาพแวดล้อมอาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับใครหลายๆ คน แต่หากลองพิจารณาจะเห็นว่าสภาพแวดล้อมก็มีความสำคัญมากไม่แพ้ประเด็นไหน หากเราอยากจะเล่านิทานให้ลูกฟัง อยากให้ลูกได้ความรู้จากนิทานที่เราเล่า แต่รอบข้างมีแต่เด็กวิ่งเล่นสนุกสนาน ลูกของเราอาจสนใจสิ่งรอบข้างมากกว่าสิ่งที่เราจะเล่าก็เป็นได้ การจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมจึงเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เด็กสนใจในนิทานของเรา

4. น้ำเสียง บุคลิก ท่าทางของผู้เล่า

หัวใจสำคัญของการเล่านิทานให้เด็กๆ ฟัง คือตัวผู้เล่าเอง ผู้เล่าควรเลือกใช้น้ำเสียงให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่อง สูงบ้าง ต่ำบ้าง เพื่อให้เด็กสนใจ สีหน้า ท่าทางก็ต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เช่น ใช้น้ำเสียงสดใส ยิ้มร่าเริง สนุกสนานเพื่อประกอบการเล่าตอนที่ตัวละครกำลังอารมณ์ดี มีความสุข ใช้น้ำเสียงสั่นเครือ เศร้าๆ แกล้งร้องไห้ เวลาตัวละครเสียใจกับเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง เป็นต้น

นิทานเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างจินตนาการ ความรู้ คุณธรรม และทักษะต่างๆ ให้เด็กๆ แต่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากเด็กๆ ไม่สนใจ ไม่สนุก ไม่รู้สึกคล้อยตามในสิ่งที่เล่าไป วิธีการเล่านิทานจึงเป็นเรื่องสำคัญ เป็นช่องทางหนึ่งที่จะทำให้เด็กเข้าถึงเนื้อหาได้เป็นอย่างดี

วิธีที่เรานำเสนอไปเป็นเพียงวิธีหนึ่งในการเล่านิทานเท่านั้น หากเพื่อนๆ มีวิธีที่แตกต่างกันออกไป สามารถมาเล่ามาแชร์กันได้นะคะ^^

ขอให้มีความสุขกับการอ่านค่ะ^^

#52สัปดาห์ที่ฉันจะอ่านหนังสือ #หนังสือเด็ก#นิทาน #เล่านิทาน #รีวิว #เด็ก

วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2559

สัปดาห์ที่ 11 กุ๋งกิ๋งหัวเหม็น

52 สัปดาห์ที่ฉันจะอ่านหนังสือ
สัปดาห์ที่ 11
หนังสือ กุ๋งกิ๋งหัวเหม็น Kung King's Hair Stinks



หากถามถึงหนังสือโปรดของเด็กๆ ที่สอนเรื่องสุขลักษณะ และความรู้ต่างๆ เชื่อแน่ว่านิทานชุดกุ๋งกิ๋ง ต้องติดหนึ่งในรายชื่อหนังสือเหล่านั้น...

เรารู้จักกุ๋งกิ๋งครั้งแรก เมื่อครั้งเป็นคุณครูโรงเรียนอนุบาลใหม่ๆ และเริ่มคุ้นเคยกับเด็กน้อยน่ารักๆ คนนี้มาเรื่อยๆ เมื่อต้องใช้เรื่องราวของเธอมาสอนเพื่อนๆ วัยแสบซนทั้งหลาย

กุ๋งกิ๋งหัวเหม็น เป็นหนึ่งในนิทานกุ๋งกิ๋งที่เด็กๆ ชอบกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องของหนูน้อยกุ๋งกิ๋งที่เล่นปลอมตัวเป็นคนชรา เอาแป้งทาหัวทาหน้าจนทั่ว แต่ไม่ยอมสระผม จนเริ่มคัน ผมก็มีกลิ่นเหม็น เพื่อนๆ ก็ไม่อยากเข้าใกล้เพราะเข้าใจว่ากุ๋งกิ๋งเป็นเหา กุ๋งกิ๋งเลยได้บทเรียนเล็กๆ ว่าควรต้องสระผมให้สะอาด

สำหรับเล่มที่เราเคยใช้สอนยังเป็นภาษาไทยล้วน แต่ตอนนี้กุ๋งกิ๋งของเรามีเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษแล้วนะคะ นอกจากจะสนุก เด็กๆ ได้เรียนรู้เรื่องสุขลักษณะแล้ว ยังได้ฝึกภาษาอังกฤษไปในตัวด้วย

หนังสือนิทานกุ๋งกิ๋งจึงเป็นหนังสือเด็กอีกเล่มที่อยากแนะนำค่ะ
............................................

ข้อมูลหนังสือ
ชื่อหนังสือ : กุ๋งกิ๋งหัวเหม็น Kung King's Hair Stinks
ผู้แต่ง : มลฤดี ทองกลอย
ภาษาอังกฤษ : จุฬา บิลอับดุลล่าห์
ภาพประกอบ : นพดล กำจรไพศาล
ช่วงวัย : 4-6 ปี
สำนักพิมพ์ แฮปปี้คิดส์
จำนวน 24 หน้า ราคา 95 บาท

#52สัปดาห์ที่ฉันจะอ่านหนังสือ
#กุ๋งกิ๋งหัวเหม็น #รีวิวหนังสือ



วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2559

สัปดาห์ที่ 10 Love without limits ความรักไร้ขีดจำกัด



52 สัปดาห์ที่ฉันจะอ่านหนังสือ
สัปดาห์ที่ 10
หนังสือ Love without limits ความรักไร้ขีดจำกัด

หากพูดถึงชายหนุ่มไร้แขนขา นักพูดสร้างแรงบันดาลใจที่โด่งดังไปทั่วโลก หลายคนคงนึกถึงชื่อผู้ชายคนนี้ ‘นิก วูยิชิช’ ชายหนุ่มชาวออสเตรเลียเชื้อสายเซอร์เบีย นิกพิการไร้แขนขาตั้งแต่กำเนิด แต่หากใครเคยได้ฟังเรื่องราวของเขามาบ้าง จะรู้ว่านั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาเลย และถึงแม้จะเป็นปัญหานิกก็สามารถเอาชนะมาได้ และมายืนอย่างสง่าผ่าเผยในฐานะนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ ปลุกพลังในตัวใครหลายๆ คน

แต่ถึงแม้นิกจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่เรื่องความรักก็เป็นสิ่งที่เกินกว่าใครหลายคนจะคาดคิด แต่วันหนึ่งเราก็ได้ทราบข่าวดีว่านิกได้แต่งงานกับสาวสวย และมีลูกชายที่น่ารักน่าเอ็นดู และตอนนี้ก็กำลังมีพยานรักเพิ่มขึ้นมาอีกคน

Love without limits ความรักไร้ขีดจำกัดเล่มนี้ จึงเป็นหนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวความรักของนิกและคะนะเอะ วูยิชิช ภรรยาคนสวยของเขา ทั้งสองรู้สึกผูกพัน ประทับใจในกันและกันตั้งแต่แรกเห็น แต่เส้นทางรักก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทั้งคู่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคราวกับในภาพยนตร์รักโรแมนติกที่มีความเข้าใจผิด มีเรื่องต่างๆ เข้ามากว่าจะได้แต่งงานกัน และแม้จะแต่งงานกันแล้ว ก็มีเรื่องให้ต้องเรียนรู้ ปรับตัวกันต่อไป

เรื่องนี้สำหรับคนที่ไม่ใช่คริสต์เช่นเรา อ่านตอนแรกๆ ยอมรับว่ารู้สึกขัดนิดๆ ด้วยนิกและคะนะเอะมักจะพูดถึงเรื่องพระเจ้า พระเยซู และคำสอนในพระคัมภีร์ตามหลักศาสนาคริสต์อยู่ค่อนข้างมาก แต่พอลองวางคำว่าศาสนา อ่านเหมือนฟังเรื่องของคู่รักคู่หนึ่งที่ชอบและศรัทธาในสิ่งเดียวกัน มาเล่าเรื่องความรัก และข้อคิดต่างๆ ในการประคับประคองชีวิตคู่ให้ฟัง พออ่านในแง่มุมนี้จะเห็นเลยว่าเรื่องของนิกและคะนะเอะมีอะไรที่สอนใจใครหลายๆ คนได้อีกมาก นิกกับคะนะเอะสอนให้รู้ว่าชีวิตรักจำเป็นต้องปรับตัว ต้องเข้าอกเข้าใจ ต้องให้เกียรติกัน ไม่ใช่แค่คนสองคน แต่หมายรวมไปถึงครอบครัวของอีกฝ่ายด้วย

มีประโยคหนึ่งที่นิกเล่าว่าคะนะเอะได้บอกกับครอบครัวของเขาเมื่อทุกคนกังวลถึงสิ่งที่เขาเป็น คะนะเอะบอกว่า “ต่อให้เรามีลูกห้าคนที่มีสภาพเหมือนนิก เธอก็จะรักทุกคนแบบที่เธอรักเขา” และนั่นไม่ใช่แค่คำพูดสวยหรู เพราะการที่เธอตัดสินใจแต่งงานกับชายที่ไร้แขนขาเช่นเขาก็เป็นบทพิสูจน์แรกแล้วว่าเธอรักและรับได้ในสิ่งที่เขาเป็น

ถ้าเรื่องราวการไม่ยอมแพ้ของนิกเคยสอนใจ ปลุกพลังในตัวคุณให้ลุกสู้มาแล้ว เรื่องราวความรักของเขาก็จะทำให้คุณเชื่อในความรักได้เช่นกัน นิกได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่า ไม่ว่าใครก็สามารถมีความรักที่ดีได้ แม้แต่คนที่ไม่สมบูรณ์แบบเช่นเขายังมีรักที่สมบูรณ์แบบได้ คุณเองก็ย่อมมีได้เช่นกัน เพียงแค่บางครั้งอาจต้องรอคนที่ใช่ในเวลาที่ใช่ และเมื่อเจอแล้ว ก็ขึ้นอยู่ที่คุณจะรักษาความรักไว้ได้หรือเปล่า...เท่านั้นเอง

ปล. นิกฝากประโยคหนึ่งไว้ว่าสำหรับใครที่กำลังมองหารักอยู่...
‘อย่าตั้งกำแพงและข้อจำกัดมากเกินไป เมื่อมองหารัก’
ลองลดกำแพงลงบ้างนะคะ เผื่อจะเจอใครสักคนที่ใช่สักที (บอกตัวเองด้วยเหมือนกัน) ^^
......................................................
ข้อมูลหนังสือ
ชื่อหนังสือ: Love without limits ความรักไร้ขีดจำกัด
ผู้เขียน: Nick Vujicic และ Kanae Vujicic
ผู้แปล: พลอยแสง เอกญาติ
พิมพ์ครั้งที่ 1 มกราคม 2559 สำนักพิมพ์อินสปายร์ ในเครือบริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด
จำนวน 280 หน้า ราคา 185 บาท
........................................................
Talk Talk: สวัสดีวันจันทร์ค่ะ มาผิดวันไปหน่อย ถ้าเป็นนักเรียนก็ส่งการบ้านช้าไปหนึ่งวันเลย แหะๆ ขออภัยจริงๆ ค่ะ เคยแจ้งในเพจไปจะโพสต์ทุกวันอาทิตย์ แต่เมื่อคืนเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ รู้สึกตัวอีกทีก็วันใหม่แล้ว ถ้ามีใครรออ่านก็ขออภัยด้วยนะคะ แต่ถึงไม่มีก็ต้องขออภัยอยู่ดี ที่ผิดคำพูดตัวเอง คราวหน้าจะพยายามไม่ให้พลาดอีกค่ะ ขอให้มีความสุขในวันจันทร์นี้และในทุกๆ วันค่ะ^^